Health

  • ออกกำลังกายส่วนท้อง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
    ออกกำลังกายส่วนท้อง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

    ออกกำลังกายส่วนท้อง เป็นการออกกำลังกายที่เน้นไปที่ส่วนท้องของร่างกาย เพื่อลดไขมันที่อยู่บริเวณนี้ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ การออกกำลังกายส่วนท้องยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณนี้ ทำให้ร่างกายดูมีสุขภาพแข็งแรงและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

    การออกกำลังกายส่วนท้องสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ กระโดดเชือก หรือการฝึกหุ้นขา แต่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการลดไขมันส่วนท้องคือการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่เน้นไปที่ส่วนท้องโดยตรง โดยใช้เครื่องออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณนี้

    ออกกำลังกายส่วนท้อง

    นอกจากการออกกำลังกายแบบแอโรบิคแล้ว การดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยลดไขมันส่วนท้องได้ ควรลดการกินอาหารที่มีไขมันสูง และเพิ่มการกินผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น ไก่ ปลา และเนื้อวัวที่ไม่มีไขมันสูง และควรเลือกทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ข้าวโพด ข้าวกล้อง และเมล็ดพืชต่างๆ

    ข้อดีของการออกกำลังกายส่วนท้อง

    ข้อดีแรกของการออกกำลังกายส่วนท้องคือช่วยลดไขมันที่อยู่บริเวณท้อง โดยเมื่อไขมันที่อยู่บริเวณท้องลดลงจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวกับส่วนท้อง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง

    ข้อดีที่สองของการออกกำลังกายส่วนท้องคือช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อท้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อท้อง ทำให้ร่างกายมีสมดุลและสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ดีขึ้น

    ข้อดีที่สามของการออกกำลังกายส่วนท้องคือช่วยเพิ่มความมีสุขภาพดี การออกกำลังกายส่วนท้องช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ และช่วยเพิ่มความมีสุขภาพดีให้กับร่างกาย

    สุดท้ายนี้ การออกกำลังกายส่วนท้องเป็นสิ่งที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของร่างกาย ไม่เพียงแต่ช่วยลดไขมันส่วนท้อง แต่ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณนี้ ทำให้ร่างกายดูมีสุขภาพแข็งแรงและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากคุณต้องการลดไขมันส่วนท้อง ควรออกกำลังกายส่วนท้องอย่างสม่ำเสมอ และดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง

    คำถามที่พบบ่อย FAQ

    การออกกำลังกายส่วนท้องช่วยลดไขมันที่หน้าท้องได้จริงหรือไม่

    – การออกกำลังกายส่วนท้องจะช่วยลดไขมันที่หน้าท้องได้จริง โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบ cardio ที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบ strength training แต่การออกกำลังกายแบบ strength training ก็ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีในส่วนท้องได้

    การออกกำลังกายส่วนท้องต้องทำกี่ครั้งต่อสัปดาห์

    – การออกกำลังกายส่วนท้องควรทำอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยแต่ละครั้งควรใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที และควรรวมกับการออกกำลังกายอื่นๆ เช่น การวิ่งเพื่อเสริมสร้างการเผาผลาญไขมัน

    ขอบคุณรูปภาพจาก

    wikihow.com

    ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ ferengifts.com

Economy

  • ชู “เงินกู้โควิด” ผลงานชิ้นโบแดงเพิ่มมูลค่าจีดีพี
    ชู “เงินกู้โควิด” ผลงานชิ้นโบแดงเพิ่มมูลค่าจีดีพี

    ชู “เงินกู้โควิด” ผลงานชิ้นโบแดง เพิ่มมูลค่าจีดีพี 8 แสนล้าน-เศรษฐกิจโต 4.89%

    ประทับตรา “ผลงานดีมาก” ครม.รับทราบประเมินผลเงินกู้โควิดก้อนแรก 3 แผนงาน ส่งผลให้มูลค่าจีดีพี รวมตั้งแต่ปี 2563–2566 เพิ่มขึ้น 0.80 ล้านล้านบาท จีดีพีเพิ่มขึ้น 4.89% ปลื้มสุด ชูมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบช่วยคนไทยบรรเทาภาระ–ลดหนี้–หมุนเงินเพิ่มกว่า 2 ล้านล้านบาท

    นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานการประเมินผลโครงการในภาพรวม รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 3

    และรายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมในการดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563

    ประกอบด้วย แผนงานที่ 1 แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19

    จากการประเมินผล 51 โครงการ วงเงิน 63,398.96 ล้านบาท มีผลเบิกจ่าย 59,051.04 ล้านบาท คิดเป็น 93.14% ของกรอบวงเงิน ผลการ ดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 63,559.74 ล้านบาท

    มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่คาดว่ารัฐจะได้รับกลับคืนสูงสุดภายในเวลา 3 ปี 12,267.03 ล้านบาท ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่ติดเชื้อโควิด

    ยกระดับการวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีน และเพิ่มความเชื่อมั่นของบุคลากรทางการแพทย์ต่อระบบสาธารณสุข ของประเทศ ขณะที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและอาสาสมัครสาธารณสุขได้รับค่าตอบแทน เยียวยา

    และชดเชยค่าเสี่ยงภัย ทั้งสิ้น 6,222.14 ล้านบาท สถานพยาบาลและโรงพยาบาลทั่วประเทศได้รับการสนับสนุนครุภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ 33,820 รายการ เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องเอกซเรย์ เครื่องตรวจความดัน รถพยาบาล วัสดุทางการแพทย์ และประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 45.90 ล้านโดส

    ชู “เงินกู้โควิด” ผลงานชิ้นโบแดง เพิ่มมูลค่าจีดีพี 8 แสนล้าน-เศรษฐกิจโต 4.89%

    แผนงานที่ 2 แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยา และชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ

    ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จากการประเมินผล 20 โครงการ วงเงิน 709,059.02 ล้านบาท มีผลเบิกจ่าย 704,749.81 ล้านบาท คิดเป็น 99.39% ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมากเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2,304,509.85 ล้านบาท มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมที่คาดว่ารัฐจะได้รับกลับคืนสูงสุดภายใน 3 ปี 444,837.87 ล้านบาท

    ช่วยชะลอการเกิดหนี้เสียหรือการเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือน บรรเทาผลกระทบครอบครัวจากเงินช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ ลดความ เครียดและความวิตกกังวลของประชาชน โดยส่วนนี้ เป็นการช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยรายได้ และบรรเทาค่าใช้จ่าย 704,749.72 ล้านบาท เช่น ประชาชนที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการเราชนะ 32,866,393 ราย กลุ่มเปราะบาง 6,663,602 ราย และเกษตรกร 7,565,880 ราย

    แผนงานที่ 3 แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

    จากการประเมินผล 329 โครงการ วงเงินรวม 208,354.27 ล้านบาท มีผลเบิกจ่าย 185,538.47 ล้านบาท คิดเป็น 89.05% ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 816,288.75 ล้านบาท

    ชู “เงินกู้โควิด” ผลงานชิ้นโบแดง เพิ่มมูลค่าจีดีพี 8 แสนล้าน-เศรษฐกิจโต 4.89%

    มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมที่คาดว่ารัฐจะได้รับกลับคืนสูงสุดภายในเวลา 3 ปี 173,052.59 ล้านบาท มีการจ้างงานและรักษาระดับการจ้างงานในช่วงโควิด 237,884 ราย ยกระดับกำลังการผลิตผ่านการพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่และพื้นที่ต้นแบบ “โคก หนอง นา” รวมทั้งยกระดับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ 55,651 แปลงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นการปรับปรุง ซ่อมแซมถนน จำนวน 548 แห่ง และจัดการแหล่งน้ำต่างๆ ทั้งแหล่งน้ำชลประทาน แหล่งน้ำบาดาล และแหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวน 782 แห่ง

    “ผลกระทบต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจ (Gross domestic product GDP) จากการใช้จ่ายเงินกู้ 950,590.60 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) รวมตั้งแต่ปี 2563-2566 เพิ่มขึ้น 0.80 ล้านล้านบาท และเมื่อพิจารณาตามแผนงาน พบว่า การใช้จ่ายเงินกู้ตามแผนงานที่ 2 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้มูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากที่สุด 0.59 ล้านล้านบาท นอกจากนั้น การใช้จ่ายเงินกู้ฯส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real GDP Growth) ให้เพิ่มขึ้นทั้งหมด 4.89% โดย ในปี 2564 อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 2.48% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อตั้งแต่ปี 2563-2566 ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 0.05% ต่อปี โดยในปี 2564 เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ 0.08%”.

    ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th

    ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

    สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : ferengifts.com